ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”, “เรา” หรือ “ของเรา”) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(ตามที่นิยามไว้ข้างล่างนี้)
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”, “นโยบายความเป็นส่วนตัว”) ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคล (ตามที่นิยามไว้ในข้อ 1 ข้างล่างนี้) ของลูกค้าบุคคลธรรมดาของบริษัทฯ ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต ตลอดจน พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น บุคคลผู้มีอำนาจ กรรมการ ผู้ติดต่อ ตัวแทน นายหน้า ผู้แนะนำการลงทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน และบุคคลธรรมดาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้านิติบุคคลของบริษัทฯ ทั้งที่เป็นลูกค้าเป้าหมาย (ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต) ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอดีต
บุคคลธรรมดา (“ท่าน”, “ของท่าน”) ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาและลูกค้านิติบุคคล(“ลูกค้า”) (หรืออาจเรียกรวมกันทั้งหมดว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)
นโยบายฉบับนี้จะอธิบายถึงวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ซึ่งใช้บังคับกับทั้งธุรกิจ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) กิจกรรมและนิทรรศการ ช่องทางการติดต่อทางออนไลน์ โลเคชั่นอื่น ๆ (locations) และวิธีการใด ๆ ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ซึ่งสามารถระบุถึงหรือทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลได้ ตามที่ระบุไว้ข้างล่างนี้ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งที่บริษัทฯ ได้จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง อาทิเช่น ผ่านทาง ผู้แนะนำการลงทุน/เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ปรึกษาทางการเงิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ หรือศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) ของบริษัทฯ หรือจากแหล่งอื่น ๆโดยอ้อม เช่น สื่อสังคมแพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ และผ่านบริษัทในเครือ ผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงานทางราชการ หรือบุคคลภายนอก (เช่น ผู้รับฝากทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับฝากทรัพย์สินช่วง ตัวแทน และนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์) ประเภทของข้อมูลที่เก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ และบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการจากบริษัทฯ
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทฯจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ เพศ อายุ อาชีพ ตำแหน่งงาน เงินเดือน ที่ทำงาน ตำแหน่ง การศึกษา สัญชาติ วันเกิด สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นต้น) ลายมือชื่อ การบันทึกเสียง การบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ รูปถ่าย การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ทะเบียนบ้าน และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ
(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล และรหัสประจำตัวสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
(3) ข้อมูลบัญชีและข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หมายเลขบัญชีและประเภทของบัญชี ข้อมูลพร้อมเพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน รายได้และค่าใช้จ่าย ตลอดจนข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลการสมัครใช้บริการและผลิตภัณฑ์
(4) ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ประเภทของผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น หลักทรัพย์ ตราสารอนุพันธ์ ราคาและปริมาณ หมายเลขคำสั่งซื้อ หมายเลขนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (หากมี) ประวัติการซื้อขายและยอดคงเหลือ ประวัติการชำระเงินและการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ของท่าน งบการเงิน หนี้สิน ภาษี รายได้ กำไรและเงินลงทุน แหล่งที่มาของเงินทุน การเป็นตัวแทน ข้อมูลการซื้อขาย ประวัติการผิดนัด มูลค่าของหลักประกัน (margin balance) และข้อมูลเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (margin loan)
(5) ข้อมูลทางเทคนิค เช่น เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO) การเข้าสู่ระบบ (Login log) เวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเพจของบริษัทฯ คุกกี้ ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเขตเวลา (Time zone setting) และสถานที่ตั้ง ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
(6) รายละเอียดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อบัญชี (account identifiers) ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รหัสประจำตัว (PIN ID code) สำหรับการซื้อขาย ความสนใจและความพึงพอใจ กิจกรรม เป้าหมายการลงทุน ความรู้และประสบการณ์การลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk tolerance)
(7) ข้อมูลการใช้งาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม การใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ
(8) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัทฯ
ลูกค้านิติบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ จะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล คำนำหน้าชื่อ อายุ เพศ รูปถ่าย ข้อมูลในประวัติส่วนบุคคล การศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับงาน (เช่น สถานะ หน้าที่ อาชีพ ตำแหน่งงาน บริษัทที่คุณทำงานให้ หรือเป็นพนักงาน หรือถือหุ้นอยู่) ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง) อัตราส่วนการถือหุ้น ลายมือชื่อ และข้อมูลประจำตัวอื่น ๆ
(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ประเทศ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
(3) ข้อมูลส่วนตัวที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของลูกค้ากับบริษัทฯ เช่น การเปิดบัญชี การบริหารจัดการ การดำเนินงาน การชำระเงิน การชำระบัญชี การประมวลผลและการรายงานในนามของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวอาจรวมถึงลายมือชื่อและหนังสือติดต่อกับบริษัทฯ
(4) ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ ในสัญญา แบบฟอร์มหรือการสำรวจ หรือข้อมูลที่เก็บรวบรวมในเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ การสัมมนา หรือกิจกรรมทางสังคมของบริษัทฯ
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ที่บริษัทฯ จะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
(1) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลสุขภาพอันเป็นภาวะบกพร่องทางสุขภาพซึ่งรวมถึงความพิการ

2. วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
2.1 วัตถุประสงค์ที่เราจำเป็นต้องได้รับความยินยอม
บริษัทฯ จะต้องอาศัยความความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อ
2.1.1 การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัทฯ และบุคคลภายนอกซึ่งไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น
2.1.2 การเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้า ,ลายนิ้วมือ ทั้งนี้เพื่อการเข้าถึงสถานที่/การสมัครใช้บริการ และการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคล
(2) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ภาวะบกพร่องทางสุขภาพและความพิการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการและการให้บริการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
2.1.3 การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่อาจจะไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลที่เพียงพอ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอม
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของ ณ เวลาใดก็ได้ โดยช่องทางการติดต่อ Poems@phillip.co.th เพื่อถอนความยินยอม ซึ่งการถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่จะขอถอนความยินยอมนั้น
2.2 วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ อาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ
2.2.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2.2.2 เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
2.2.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอก เพื่อให้เท่าเทียมและสอดคล้องกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2.2.4 เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ
2.2.5 ประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
บริษัทฯ จะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (2.2.1) ถึง (2.2.5) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
(1) การติดต่อกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่จะเข้าทำสัญญากับบริษัท
(2) การประมวลผลคำขอเปิดบัญชี การรักษาสภาพของบัญชี และการดำเนินการที่เกี่ยวกับบัญชี รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การประมวลผลคำขอหรือการร้องขอบริการหรือผลิตภัณฑ์ การประมวลผลธุรกรรม การออกรายงานแสดงความเคลื่อนไหวของบัญชี (account statement) และการดำเนินการและการปิดบัญชีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(3) การให้บริการ เช่น ผู้แนะนำการลงทุน/เจ้าหน้าที่การตลาด ที่ปรึกษาทางการเงิน การให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ การจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล ที่ปรึกษาการลงทุน การให้ยืมและยืมหลักทรัพย์ การค้าตราสารอนุพันธ์ นายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ การให้คำปรึกษาด้านตราสารอนุพันธ์ และการจัดการกองทุนตราสารอนุพันธ์ เป็นครั้งคราว และการจัดการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการเหล่านี้
(4) การจัดหาผลิตภัณฑ์การลงทุน การเสนอทางเลือกให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนของบุคคลภายนอก) เป็นครั้งคราว และการจัดการใดๆที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์การลงทุนเหล่านี้
(5) การบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการบริหารจัดการบัญชีที่มีอยู่กับบริษัทฯ
(6) การป้องกันและให้การบริการอย่างเหมาะสมแก่ลูกค้าที่มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสุขภาพและความพิการ ในการเข้าทำธุรกรรมบางประเภทด้วยตนเอง เพื่อวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกและควบคุมความเสียหายใดๆ
(7) การดำเนินการตามคำสั่งของ หรือการตอบข้อซักถามหรือความคิดเห็น และการแก้ไขเรื่องร้องเรียน
(8) การยืนยันตัวบุคคลและการตรวจสอบข้อมูลเครดิต กระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know-your-customer : KYC) และตรวจสอบสถานะลูกค้า (customer due diligence : CDD) การตรวจสอบและคัดกรองอื่น ๆ และการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องที่อาจจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
(9) การป้องกัน ตรวจจับ และสอบสวนการฉ้อโกง การประพฤติมิชอบ หรือกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะได้รับการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ และการวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยง
(10) การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ กฎเกณฑ์ แนวทาง คำสั่ง คำแนะนำ และการร้องขอจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาษีอากร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือหน่วยงานกำกับดูแล (ทั้งในประเทศและต่างประเทศ) อาทิเช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทสำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรมสรรพากร
(11) การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทฯ การควบคุภายใน การตรวจสอบภายใน และการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนของบริษัทฯ ที่อาจจำเป็นโดยกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบ การเงินและการบัญชี ระบบต่าง ๆ และความต่อเนื่องทางธุรกิจ
(12) การจัดการหรือการสอบสวนเรื่องร้องเรียน ข้อเรียกร้อง หรือข้อพิพาทใด ๆ
(13) การติดต่อสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ และเอกสารส่งเสริมการขายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทในเครือและบริษัทย่อยของบริษัท และบุคคลภายนอก
(14) การพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ และการให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันแก่ลูกค้า เกี่ยวกับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นครั้งคราว
(15) การทำวิจัย การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ ตัวอย่างเช่น ในด้านวงเงินลงทุนและพฤติกรรมการลงทุนของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
(16) การจัดโครงการหรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม การสัมมนา และการเยี่ยมชมบริษัท
(17) การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การติดตามทวงถามจำนวนเงินใด ๆ ทั้งหมดที่ติดค้างต่อบริษัทฯ
(18) การอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบทางการเงินที่จะดำเนินการโดยผู้สอบบัญชี หรือการรับบริการที่ปรึกษากฎหมายจากที่ปรึกษากฎหมายที่แต่งตั้งโดยลูกค้าหรือโดยบริษัทฯ
(19) การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของเราภายใต้สัญญาใด ๆ ที่เราเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ผู้ขาย หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น ๆ หรือภายใต้สัญญาที่บริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นตัวแทน และ
ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือการเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจจะหรือไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการต่อไปได้ หากบริษัทฯ ไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่อมีการร้องขอ
ลูกค้านิติบุคคล
(1) การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ อาทิเช่น การตอบข้อซักถามหรือการร้องขอ
(2) การคัดเลือกลูกค้า เช่น การตรวจสอบตัวตนและสถานะลูกค้า การตรวจสอบสถานะหรือการตรวจสอบประวัติความเป็นมาในรูปแบบอื่น ๆ หรือการระบุความเสี่ยงเกี่ยว อีกทั้งการตรวจสอบคัดกรองกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (sanction lists) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ/หรือที่เป็นทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป ตามที่กฎหมายกำหนด การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติลูกค้า การออกคำขอใบเสนอราคาและการเชิญชวนประกวดราคา การเข้าทำสัญญาใดๆ
(3) การจัดการข้อมูลลูกค้า เช่น การดำรงและปรับปรุงรายชื่อ/รายนามลูกค้า รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล การจัดเก็บสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจมีการอ้างถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(4) การบริหารความสัมพันธ์ เช่น การวางแผน การดำเนินการ และการบริหารความสัมพันธ์ในทางสัญญา กับลูกค้า อาทิเช่น การทำธุรกรรมและดำเนินการตามคำสั่งสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การดำเนินกิจกรรมด้านการบัญชี การตรวจสอบ การเรียกเก็บเงินและการจัดเก็บเงิน การจัดการด้านการจัดส่งและการส่งมอบ การให้บริการสนับสนุน
(5) การวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสำรวจและการรายงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ และผลการดำเนินงานลูกค้า การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และผลิตภัณฑ์และบริการ
(6) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุน เช่น การจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสนับสนุนการใช้งานระบบ (helpdesk supports) การสร้างและคงไว้ซึ่งรหัสและข้อมูลส่วนตัวสำหรับลูกค้า การบริหารจัดการการเข้าถึงระบบใดๆ ที่บริษัทฯได้อนุญาตให้ลูกค้าเข้าถึงได้ การถอนบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน (inactive accounts) การดำเนินการควบคุมธุรกิจ (business controls) เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทฯ สามารถดำเนินไปได้ และการช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ และการดูแลให้ระบบของบริษัทฯ มีความปลอดภัย การพัฒนา การใช้ การดำเนินงาน และการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
(7) การติดตามตรวจสอบความปลอดภัยและระบบ เช่น การยืนยันตัวบุคคล การควบคุมและการบันทึกการเข้าถึงระบบ การติดตามตรวจสอบระบบ อุปกรณ์ และระบบอินเทอร์เน็ต การตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแก้ไขอาชญากรรม ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง
(8) การจัดการข้อพิพาท เช่น การแก้ไขข้อพิพาท การบังคับสัญญาของบริษัทฯ การกำหนด การใช้หรือการต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(9) การสอบสวนภายใน การสอบสวน การป้องกันการร้องเรียนและ/หรืออาชญากรรมหรือการฉ้อโกง
(10) การปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในองค์กร เช่น การปฏิบัติตามนโยบายภายในองค์กร และกฎหมาย กฎระเบียบ คำสั่ง และแนวทางของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้
(11) การปฏิบัติตามกฎหมายและหน่วยงานของรัฐ เช่น การประสานงาน การปฏิสัมพันธ์และตอบสนองหน่วยงานของรัฐหรือศาล
(12) วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การแจ้งข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ ซึ่งคาดได้ว่าอาจเป็นที่น่าสนใจต่อลูกค้า กิจกรรมต่าง ๆ การเสนอบริการใหม่ การทำการสำรวจ
(13) การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจที่สมเหตุสมผล เช่น การจัดการ การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การควบคุม หรือการบริหารความเสี่ยง สถิติ การวิเคราะห์แนวโน้มและการวางแผน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกัน

3. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก ตลอดจนบุคลากรและตัวแทนของบุคคลภายนอก ทั้งภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยสามารถศึกษาทำความเข้าใจในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกเหล่านั้น เพื่อทราบถึงวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้
ลูกค้าบุคคลธรรมดา
(1) กลุ่มบริษัท Phillip Group
เนื่องจาก บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของ Phillip Group ซึ่งบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังภายในกลุ่มบริษัท Phillip Group (อาทิเช่น Phillip Securities Pte Ltd, Phillip Futures Pte Ltd,) หรืออนุญาตให้บริษัทอื่นๆ ภายในPhillip Group นั้นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น
(2) ผู้ให้บริการของบริษัทฯ
บริษัทฯอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างเพื่อการให้บริการต่าง ๆ ในนามของบริษัทฯ หรือเพื่อช่วยเหลือในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการเหล่านี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทนการวิจัย ผู้ให้บริการการวิเคราะห์ ตัวแทนการสำรวจ ตัวแทนด้านการตลาด สื่อโฆษณาและการติดต่อสื่อสาร ผู้ให้บริการชำระเงิน และ ผู้ให้บริการด้านธุรการและการดำเนินงานในการให้บริการเหล่านี้ ผู้ให้บริการอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัทฯ เพียงเท่าที่จำเป็นในการให้บริการโดยผู้ให้บริการเหล่านี้ และบริษัทฯ จะขอให้ผู้ให้บริการเหล่านี้ ไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการให้เป็นที่มั่นใจว่าผู้ให้บริการทุกรายที่ทำงานด้วยจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างปลอดภัย
(3) พันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลที่กระทำการในนามของลูกค้า หรือเกี่ยวข้องในการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทใดที่ได้รับจากบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงผู้รับเงิน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้แทนในบัญชี (account nominees) ตัวกลาง อาทิเช่น บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นบุคคลภายนอก หรือบริษัทบริหารสินทรัพย์ ตลอดจน ผู้รับฝากทรัพย์สิน ธนาคารตัวแทน ตัวแทน ผู้ขาย พันธมิตรธุรกิจร่วม (co-brand partners) คู่สัญญา (market counterparties) ผู้ออกผลิตภัณฑ์ หรือระบบคลังข้อมูลทางการค้าโลก (global trade repositories) ที่บริษัทฯ ทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้าและที่ลูกค้าอนุญาตให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยสอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
(4) บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายอนุญาต
ในบางสถานการณ์หรือในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลภายนอก เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทฯ เชื่อว่าการเปิดเผยหรือการโอนนั้นจำเป็นเพื่อที่จะปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย
(5) ที่ปรึกษาวิชาชีพ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทฯที่เกี่ยวกับ บริการด้านการตรวจสอบ กฎหมาย การบัญชี และภาษีอากร ซึ่งช่วยในการประกอบธุรกิจและแก้ต่าง หรือจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางกฎหมาย
(6) บุคคลภายนอก เช่น ผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้
บริษัทฯ อาจมอบ โอน หรือแปลงหนี้สิทธิหรือภาระผูกพันของบริษัทฯ ให้แก่บุคคลภายนอก เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาใด ๆ ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำระหว่างบริษัทฯ และอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ รวมถึงบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอน หรือผู้รับแปลงหนี้ แต่ทั้งนี้ผู้รับข้อมูลเหล่านี้ต้องตกลงที่จะปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้
(7) บุคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการโอนธุรกิจ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นรายสำคัญ ผู้รับโอนสิทธิ บุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนสิทธิ ผู้รับโอนหรือบุคคลที่อาจเป็นผู้รับโอนของบริษัทฯ ในกรณีที่มีการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขาย การซื้อ กิจการร่วมค้า การโอน การเลิกกิจการ หรือเหตุการณ์ใดในทำนองเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการโอนหรือการจำหน่ายจ่ายโอนธุรกิจ สินทรัพย์ หรือหุ้นทั้งหมดหรือส่วนใด ๆ ของบริษัทฯ หากมีเหตุการณ์ใด ๆ ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น ผู้รับข้อมูลจะปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวฉบับนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
ลูกค้านิติบุคคล
บริษัทฯ อาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับบุคคลอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ 3 ข้างต้น แก่ บริษัทในเครือ Phillip Group พันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ของเรา ผู้ให้บริการบุคคลภายนอกที่เราจ้าง ทั้งนี้ในบางสถานการณ์ เราต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ในกรณีที่เชื่อได้ว่าการใช้ข้อมูลนั้นจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของเรา สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคลหรือบุคคลภายนอกใด ๆ ตลอดจน เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการฉ้อโกง ด้านความมั่นคง ความปลอดภัย
บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมั่นใจถึงการคุ้มครองข้อมูล เมื่อบริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก เช่น ข้อตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอก หรือบริษัทในเครือ ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจจะไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย แต่อย่างไรนั้น บริษัทฯ มีการดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

5. ระยะเวลาในการที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาของสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำขึ้นกับบริษัทฯ หรือรักษาในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปอีก 10 ปี นับแต่วันที่เลิกสัญญาหรือวันที่ยุติความสัมพันธ์ใดๆกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง ภายในระยะเวลาที่เป็นการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจขยายเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้นานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ กรมสรรพากร

6. ข้อมูลที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคลให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามใด ๆ (เช่น คู่สมรสและบุตร ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมอบอำนาจ รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การส่งต่อในกรณีการรักษาเร่งด่วน) กับบริษัทฯ ซึ่งข้อมูลที่ให้เป็น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลเหล่านั้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรมั่นใจว่ามีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลที่สามเหล่านั้นทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และขอรับความยินยอมจากบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นหรืออาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7.1 สิทธิในการเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลเกี่ยวกับท่าน
7.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล : ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
7.3 สิทธิในการคัดค้าน: ในบางกรณีท่านอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในบางกิจกรรมซึ่งระบุในนโยบายฉบับนี้
7.4 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลเกี่ยวกับท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
7.5 สิทธิในการจำกัด: ท่านอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง หรือการประมวลผลของบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเราไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
7.6 สิทธิในการแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
7.7 สิทธิในการถอนความยินยอม: ท่านอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
7.8 สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถดำเนินการใดๆตามสิทธิดังข้างต้น ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน และ/หรือ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center) ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยใดๆในสิทธิต่างๆ โดยติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ “ช่องทางการติดต่อเรา” (รายละเอียดในข้อ 11)
บริษัทฯ จะดำเนินการพิจารณาคำร้องขอภายใน 30 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอดังกล่าว โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอโดยไม่มีค่าธรรมเนียม แต่อย่างไรนั้น บริษัทฯ อาจได้รับอนุญาตให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม หากคำขอการดำเนินการเรื่องข้อมูลนั้นซ้ำซ้อนหรือไม่มีมูลหรือเกินจริง นอกนี้ยังอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมเพื่อปฏิบัติตามคำร้องขอให้ดำเนินการเรื่องข้อมูลสำหรับสำเนาของข้อมูลเดียวกันเพิ่มเติม ค่าธรรมเนียมจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการจัดการของการให้ข้อมูลบริษัทฯ ไม่มีค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายสำหรับคำขอนี้ เว้นแต่ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ได้ร้องขอข้อมูลเดียวกันในหลายครั้งหรือทำการร้องขออย่างไม่สมเหตุสมผลหรือเกินสมควร ทั้งนี้บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นกรณีที่เป็นไปตามข้อยกเว้นของกฎหมาย หรือคำสั่งศาล

8. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
“คุกกี้” คือข้อมูลขนาดเล็กที่ จะถูกส่งไปยังเว็บเบราว์เซอร์ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยเว็บเบราว์เซอร์จะจัดเก็บข้อมูลและส่งกลับมายังเว็บไซต์ของบริษัทฯในครั้งต่อไปที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์บริษัทฯอีก ซึ่งเป็นการช่วยจดจำเบราว์เซอร์ของท่าน รวมถึงการเข้าใช้งานและการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ นอกจากนี้อาจช่วยในการรวบรวมข้อมูลสติการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ และบริษัทฯสามารถนำสถิติการใช้งานเหล่านั้น มาพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ท่านสามารถลบและปฏิเสธการใช้งานคุกกี้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ของท่าน ทั้งนี้อาจส่งผลให้คุณสมบัติการใช้งานบางอย่างของเว็บไซต์บริษัทฯ อาจทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

9. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น
เพื่อความสะดวกของการใช้บริการบนเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัทฯนั้น อาจมีลิงค์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งอาจมีนโยบายที่แตกต่างกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการทุกท่านตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ประกาศไว้บนเว็บไซต์เหล่านั้นเพื่อดูรายละเอียด และบริษัทฯ จะไม่รับประกันหรือสนับสนุนข้อมูลใดๆ รวมทั้งนโยบายที่ผู้ใช้บริการได้รับจากเว็บไซต์อื่นที่นอกเหนือจากของบริษัทฯ เอง

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวน เปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะประกาศผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นี้อย่างละเอียดและทบทวนเป็นระยะๆเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบทางอีเมลหรือระหว่างการเข้าสู่ระบบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอีกครั้งหากได้ทำการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่สำคัญหรือมีนัยสำคัญต่อนโยบายฉบับนี้หรือจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย

11. ช่องทางการติดต่อเรา
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิใดๆที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยซักถาม ตลอดจน เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้นโยบายฉบับนี้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่
11.1 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ: ชั้น 15 อาคารวรวัฒน์ 849 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
11.2 ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (call center)
หมายเลขโทรศัพท์: 02 – 635-3123
11.3 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)
E-mail: DPO@phillip.co.th